วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

หลักการใช้ AM & PM



การบอกเวลาในสากลนิยมใช้ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง ไม่ใช่ 24 ชั่วโมงแบบไทยเรา จึงเกิดการใช้ตัวกำหนดเวลา a.m. และ p.m. ขึ้นมากำกับท้ายตัวเลข เราไปดูหลักการใช้ a.m. & p.m. ใช้อย่างไรไม่ให้สับสนเรื่องเวลากันค่ะ

หลักการการใช้ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง (12-hour clock) โดยจะใช้เลข 1 ถึง 12 ตามด้วย a.m. และ p.m.

      - AM ย่อมาจาก ante meridiem = ใช้เวลา หลังเที่ยงคืน ถึง ก่อนเที่ยงวัน                 เริ่มที่ 00.01 น.ไปจนถึง11.59น.                

      - PM ย่อมาจาก post meridiem = ใช้เวลา หลังเที่ยงวัน ถึง ก่อนเที่ยงคืน                 เริ่มที่ 12.01 น. ไปจนถึง 23.59 น.


เที่ยงวันกับเที่ยงคืน ต้องพูดยังไง?


      นอกจาก 12 AM และ 12 PM แล้ว ก็จะใช้เป็น เที่ยงวัน = 12 noon หรือ 12 midday ในขณะที่ เที่ยงคืนใช้ 12 midnight
      ***12.00 a.m. จะหมายถึงเวลาเที่ยงคืน (midnight) แต่ถ้านาฬิกาบอกเวลา 12.00 p.m. จะหมายถึงเวลาเที่ยงวัน        
      ***12.00 a.m. จะหมายถึงเวลาเที่ยงคืน (midnight) แต่ถ้านาฬิกาบอกเวลา 12.00 p.m. จะหมายถึงเวลาเที่ยงวัน

  AM PM ย่อแบบไหนจึงจะถูก 
                                                   
ตัวย่อของ PM และ AM ที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับมีด้วยกัน 3 รูปแบบคือ 
                    
       - ตัวพิมพ์เล็กมีจุด a.m. และ p.m. 
       - ตัวพิมพ์ใหญ่ขนาดเล็กไม่มีจุด AM และ PM 
       - ตัวพิมพ์ใหญ่ขนาดเล็กมีจุด  A.M. และ P.M.

  การเปรียบเทียบเวลา 12 ชั่วโมงและ 24 ชั่วโมง

          
24-hour clock
00:00
12:00 midnight
(start of the day)
01:00
1:00 a.m.
02:00
2:00 a.m.
03:00
3:00 a.m
04:00
4:00 a.m.
05:00
5:00 a.m.
06:00
6:00 a.m.
07:00
7:00 a.m.
08:00
8:00 a.m.
09:00
9:00 a.m.
10:00
10:00 a.m.
11:00
11:00 a.m.
12:00
12:00 noon *
13:00
1:00 p.m.
14:00
2:00 p.m.
15:00
3:00 p.m.
16:00
4:00 p.m.
17:00
5:00 p.m.
18:00
6:00 p.m.
19:00
7:00 p.m.
20:00
8:00 p.m.
21:00
9:00 p.m.
22:00
10:00 p.m.
23:00
11:00 p.m.
24:00
(midnight)*
(end of the day)

วิธีการเขียนและการอ่าน                                                      
    หลายคนอาจจะคิดว่าการเขียน a.m. และ p.m. จะเขียนแบบใดก็ได้ ซึ่งเราพบการเขียนหลายแบบเลย เช่น AM PM, A.M. P.M., am. pm. แต่ที่จริงแล้วนั้นหากต้องการเขียนให้ถูกต้องตามหลักการเขียนทางธุรกิจ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นทางการ
จะต้องมีเครื่องหมายจุดอยู่หลังตัวอักษรพิมพ์เล็กทั้งสองเสมอ คือ a.m. และ p.m. 
อีกทั้งจะต้องเว้นวรรคหลังตัวเลขเวลาด้านหน้าด้วย ส่วนวิธีการอ่านจะเป็นการอ่านตัวเลขเรียงตัว และอ่านออกเสียง a.m. (เอ เอ็ม) และ p.m. (พี เอ็ม) ด้วย เช่น 
     
 -  6 a.m.  อ่านว่า  six a.m.  (เวลา 6 โมงเช้า) 
 - 10:05 a.m.  อ่านว่า  ten O five a.m.  (เทน-โอ-ไฟฟ์)  (เวลา สิบโมงห้านาที)          

***หากตัวเลขในส่วนนาทีมีเลข 0 นำหน้าตัวเลข เมื่ออ่านจะใช้ เสียงโอ แทนเลขศูนย์

     หากเวลาเต็มชั่วโมง ให้เติมคำว่า “o’clock” ท้ายเวลา อาจเติมคำบอกเวลา หรือพูด “เอ-เอ็ม” และ “พี-เอ็ม” เพื่อให้สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น ตัวอย่าง 

   - 10.00 a.m. = ten o’clock in the morning หรือ ten a.m. (เท็น-เอ-เอ็ม)
   - 04.00 p.m. = four o’clock in the afternoon หรือ four p.m. (โฟร์-พี-เอ็ม)

       2:25 p.m.   อ่านว่า  two twenty-five p.m.  (เวลา บ่ายสองโมงยี่สิบห้านาที)
       12:00 a.m.  อ่านว่า  twelve midnight   (เวลาเที่ยงคืน)
       12:00 p.m.  อ่านว่า  twelve noon  (เวลาเที่ยงวัน)                                                                                     
      สังเกตว่าวิธีการอ่านเวลาเที่ยงคืนและเที่ยงวันจะแตกต่างกับการอ่านเวลาทั่วไปนั่นเป็นเพราะเพื่อป้องกันการสับสนว่าสรุปแล้วจะเป็นเวลาเที่ยงวันหรือเที่ยงคืน จึงมีการใช้คำว่า noon (เที่ยงวัน) และ midnight (เที่ยงคืน) มากำกับในการพูดนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามเราไม่จำเป็นต้องใส่ a.m. หรือ p.m. กำกับหลังเวลาทุกครั้งก็ได้ ถ้าหากว่าประโยคนั้นได้พูดถึงช่วงเวลาชัดเจนอยู่แล้ว เช่น
               
        If I wake up at 7 (a.m.), I will go to school in time.
        (ถ้าฉันตื่นนอนเวลา 7 นาฬิกา ฉันจะไปโรงเรียนทันเวลา)
                
>> ทุกคนไปโรงเรียนตอนเช้าอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสามารถตัด a.m. ออกไปได้เลย

         Dwin has reserved table for his dinner at 7 (p.m.)
         (ดวินได้จองโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเย็นไว้ตอนหนึ่งทุ่ม)
               
 >> เราคงไม่กินอาหารเย็นตอน 7 โมงเช้าแน่นอน เพราะฉะนั้นตัด p.m. ออกได้เลย


แหล่งที่มา